ครึ่งแรก
นาทีที่ 5 : เรอัล มาดริด ได้โอกาสทักทายก่อนจากจังหวะฟรีคิกที่ โมดริช เปิดเข้าไปในเขตโทษแล้วโดนโหม่งสกัด แต่บอลเข้าทาง เบลลิงแฮม เก็บตกแถวสอง วอลเลย์ข้ามคานออกไป

นาทีที่ 12 : งานเข้าสำหรับ เซบีย่า เลย เอ็มบัปเป้ กำลังจะหลุดไปลุ้นทำประตูแต่โดน บาเด้ ซึ่งเป็นตัวสุดท้ายดึงล้มลง ผู้ตัดสินชูใบแดงไล่ออกจากสนามแบบไม่ลังเล แล้ว VAR ก็เห็นพ้องด้วย

นาทีที่ 36 : เซบีย่า ผู้เล่นน้อยกว่าแต่ตั้งรับได้ดีทีเดียว เรอัล มาดริด เพิ่งจะมีลุ้นเป็นครั้งที่สองเท่านั้นตั้งแต่ได้เปรียบตัวนักเตะ โมดริช สะกิดให้ วัลเวร์เด้ ยิงแฉลบแนวรับเจ้าบ้าน นีแลนด์ ล้มไปคนละทางแล้วด้วย

นาทีที่ 45+3 : ความผิดพลาดส่วนบุคคลล้วน ๆ ของ รามอน ที่ครองบอลนานจนโดน ปาสกวล ฉกก่อนหลุดไปยิงหลุดกรอบเฉยเลย ต้องชม ลูนิน ที่บีบพื้นที่ได้ดีด้วย

จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด 0-0 เซบีย่า 

ครึ่งหลัง
นาทีที่ 48 : เริ่มครึ่งหลังไม่ถึงนาที เซบีย่า ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียง 9 คน โรเมโร่ ตัวสำรองลงมาไม่ทันไรเข้าบอลหนักใส่ ชูอาเมนี่ ตอนแรกผู้ตัดสินแจกใบเหลือง ก่อน VAR ทักท้วงแล้วอัพเกรดเป็นใบแดง

นาทีที่ 75 : และแล้วก็ต้องเป็นเขาคนนี้เลย บอลจาก โมดริช ที่จ่ายให้ เอ็มบัปเป้ ล้วงรับบอลต่ำบ้าง ได้ซัดจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งเรียดเสียบเสาไกลเข้าไปหมดจด เรอัล มาดริด ขึ้นนำแล้ว 1-0

นาทีที่ 83 : เอ็มบัปเป้ หลุดไปได้ยิงอีกครั้ง แม้ว่า มูนญอซ อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า แต่เจ้าตัวเลือกซัดเอง บอลไม่หนี นีแลนด์ ตะครุบได้ทัน

นาทีที่ 87 : สกอร์ไหลสำหรับ เรอัล มาดริด มาได้ประตูที่สอง จากลูกเปิดของ มูนญอซ ครอสให้ การ์เซีย ที่เสาสองก่อนโหม่งชงต่อให้กับ เบลลิงแฮม ตามไปจิ้มจ่อเหลือเกิน เข้าไปไม่เหลือ 2-0

จบเกม เรอัล มาดริด เอาชนะ เซบีย่า 2-0