ครึ่งแรก
นาทีที่ 10 : กิลเยร์เม บิสโซลี มีโอกาสได้ยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งไปชนเสา ก่อนมาเข้าทาง เมลวิน ลอเรนเซ่น ที่พยายามเล่นจังหวะสวนกลับ ก่อนแทงบอลต่อมาให้ เอมิล โรบัค ใช้ความเร็วพาบอลขึ้นหน้า ก่อนจ่ายต่อมาให้ ปรเมศย์ อาจวิไล ได้จังหวะยิงแต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป 

นาทีที่ 24 : ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ พยายามเบียดล้มกับ ศุภชัย ใจเด็ด บอลไปเข้าทาง ธีราทร บุญมาทัน พยายามเปิดบอลแต่บอลไปโดนแขนของ ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ ผู้ตัดสินได้ขอเช็กวีเออาร์ ก่อนที่จะชี้เป็นจุดโทษทันที แล้วเป็น กิลเยร์เม บิสโซลี รับหน้าที่ยิงไม่พลาด ช่วยให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำ เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 

นาทีที่ 36 : จากจังหวะเตะมุมของฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บอลลอยมาถึง โกรัน เคาซิช ก่อนจะตวัดยิงเข้าประตูไป ส่งให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำห่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-0 

นาทีที่ 45+4 : คคนะ คำยก พยายามเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่เป็น โกรัน เคาซิช ที่เข้ามาบล็อคแต่บอลไปโดนแขน ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนเป็น ปรเมศย์ อาจวิไล ที่รับหน้าที่ยิงไม่พลาด ช่วยให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไล่ตาม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-2

จบครึ่งแรก เมืองทอง ยูไนเต็ด ตาม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-2

ครึ่งหลัง
นาทีที่ 52 : พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ได้จังหวะเปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก รับบอลไม่อยู่ บอลมาเข้าทาง ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ พยายามเคลียร์บอลแต่ไปเข้าทาง กิลเยร์เม บิสโซลี ได้ยิงโล่งๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำ เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-1 

นาทีที่ 72 : ปุรเชษฐ์ ทอดสนิด แทงบอลให้ ปรเมศย์ อาจวิไล ได้บอลหลุดเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนยิงเข้าประตู ช่วยให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไล่ตาม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-3 

จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เบียดชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-2 คว้าแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ 2024/25 เป็นสมัยที่ 7 พร้อมทำทริปเปิลแชมป์สำเร็จในซีซั่นนี้ และยังมีลุ้นเพิ่มโทรฟี่ที่ 4 ในศึกรีโว่ คัพ นัดชิงกับ ลำพูน วอร์ริเออร์ วันที่ 31 พ.ค.นี้