เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ผู้เล่นใหม่ของ เรอัล มาดริด ได้สร้างความประทับใจตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยไม่เพียงแต่เปิดตัวด้วยเสื้อหมายเลข 12 หลังจากที่ "ราชันชุดขาว" ซื้อสัญญาเดือนสุดท้ายจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร และเซ็นสัญญายาวถึงเดือนมิถุนายน ปี 2031 แต่เขายังแสดงความเคารพต่อทั้ง ชาบี อลอนโซ่ เทรนเนอร์คนใหม่ และ ดานี่ การ์บาฆาล เจ้าของตำแหน่งแบ็กขวาตัวจริงเดิมอย่างน่าชื่นชม

           ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสเปน แข้งวัย 26 ปีรายนี้ได้กล่าวถึง ชาบี อลอนโซ่ ซึ่งเป็นอดีตผู้เล่น "หงส์แดง" เช่นกัน และเป็นหนึ่งในไอดอลของเขามาตั้งแต่เด็ก

           “ผมโตมาในฐานะแฟนบอล ลิเวอร์พูล ได้เห็นเกมปาฏิหาริย์อิสตันบูล (นัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปี 2005) ที่มี ชาบี อลอนโซ่ เทรนเนอร์ของ เรอัล มาดริด เรา สมัยค้าแข้งในอังกฤษ ทำเรื่องน่าอัศจรรย์ นั่นคือส่วนหนึ่งของนัดชิงชนะเลิศอันน่าเหลือเชื่อ” "ทีเอเอ" เปิดเผยความรู้สึก

           “มีโอกาสได้คุยกับแกแล้วบ้างพอหอมปากหอมคอ เป็นบทสนทนาที่ดี บอก ชาบี ไปว่า คุณคือไอดอลคนสำคัญของผมช่วงที่เติบโตมา การได้มาร่วมงานกับแกตอนนี้ก็เป็นอีกความฝันที่เป็นจริงสำหรับตัวเอง”

           “คือหนึ่งในคนที่มีอิทธิพลต่อเกมการเล่นของผมอย่างมากระหว่างบ่มเพาะฝีเท้า ก็อธิบายเรื่องนี้บอกแกไปเช่นกัน การได้เห็นบอลจ่ายของแก มันจุดประกายผมให้ลงไปซ้อม, ไปฝึกให้หนักขึ้น กระหายที่จะทำบ้างในมาตรฐานเดียวกัน”

           แม้จะเพิ่งเข้ามา เทรนต์ ก็ยอมรับว่ายังไม่มีการคุยรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับบทบาทของตัวเองในทีม “ก็ยังไม่ได้คุยกันเป็นกิจจะลักษณะหรือหารือจริงๆจังๆเลย แต่ผมมั่นใจว่าอีก 1-2 วันหรือสัปดาห์จากนี้เราจะสามารถคุยกันว่าเจ้านายคาดหวังอะไรจากผม”

           “เอาตรงๆไม่ใช่ผมคนเดียวเป็นหน้าใหม่ที่นี่ แต่ ชาบี เล่าไอเดียของตัวเองแก่ทั้งทีม ดังนั้นอาจต้องอาศัยเวลาสักหน่อย ทั้งนี้แกคือเทรนเนอร์มากบารมี, เป็นอดีตผู้เล่นอันน่าทึ่ง มีความรู้ศาสตร์ฟุตบอลเป็นเข่งๆ ก็จะทำตัวเป็นฟองน้ำป้วนเปี้ยนใกล้ๆแก พยายามซึมซับข้อมูลให้มากสุดเท่าที่สามารถ” เทรนต์ กล่าวด้วยความกระหายที่จะเรียนรู้

[ เกร็ดบอล 7M ]

• การที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยกย่อง ชาบี อลอนโซ่ ในฐานะไอดอล แสดงให้เห็นถึงความเคารพและการชื่นชมในฝีเท้าและวิสัยทัศน์ของ อลอนโซ่ ตั้งแต่สมัยยังเป็นผู้เล่น ซึ่งอาจส่งผลดีต่อเคมีในทีมและความเข้าใจกันระหว่างโค้ชกับลูกทีม