สเปน

          ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในบรรดาทั้ง 4 ทีม ชนะรวดทั้งรอบแบ่งกลุ่มและรอบน็อกเอาต์ ด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นการครองบอลและการเข้าทำที่หลากหลาย พวกเขามีเกมรุกที่ดุดัน ยิงคู่แข่งไปแล้วถึง 11 ประตู นำโดยดาวยิงฟอร์มฮอตอย่าง ดานี่ โอลโม่ และ ฟาเบียน รุยซ์ ที่ต่างก็ทำไปแล้ว 2 ประตู นอกจากนี้เกมรับของสเปนก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน เสียไปเพียง 2 ประตูเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สเปนต้องระวังเรื่องความเหนื่อยล้าจากการเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษในรอบก่อนรองชนะเลิศ

ฝรั่งเศส

          แม้ฟอร์มโดยรวมจะไม่โดดเด่นเท่าสเปน แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นทีมที่อันตราย ด้วยเกมรับที่เหนียวแน่น เสียไปเพียงประตูเดียวเท่านั้นตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ และความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะอย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป ที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสต้องพยายามหาทางแก้ไขปัญหาการจบสกอร์ที่ยังไม่เฉียบคมนัก

อังกฤษ

          แม้ฟอร์มจะไม่โดนใจแฟนบอลนัก แต่พวกเขาก็ยังคงมาถึงรอบรองชนะเลิศได้อีกครั้ง ด้วยสปิริตนักสู้และความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ อังกฤษมีเกมรับที่แข็งแกร่ง และมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะเช่นกัน นอกจากนี้ พวกเขายังมีนักเตะดาวรุ่งที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม อย่างไรก็ตาม อังกฤษต้องพยายามรักษาสมาธิและความนิ่งให้ได้ตลอดทั้งเกม หากหวังจะคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรก

เนเธอร์แลนด์

          เป็นทีมเดียวในรอบรองชนะเลิศที่ชนะคู่แข่งได้ใน 90 นาทีทั้งสองรอบที่ผ่านมา พวกเขามีเกมรุกที่ดุดันและหลากหลาย นำโดย โกดี้ คักโป ที่กำลังทำผลงานได้อย่างร้อนแรง อย่างไรก็ตาม เนเธอร์แลนด์ต้องพยายามแก้ไขปัญหาเกมรับที่ยังคงเสียประตูง่ายอยู่

          ทั้ง 4 ทีมต่างมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ยุโรปได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าทีมใดจะสามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ในเกมรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ แฟนบอลทั่วโลกเตรียมลุ้นกันได้เลยว่าทีมใดจะได้เป็นแชมป์ยูโร 2024!

โปรแกรมแข่ง ยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ

คืนวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567

• 02.00 น. สเปน พบ ฝรั่งเศส

คืนวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567

• 02.00 น. เนเธอร์แลนด์ พบ อังกฤษ

โปรแกรมแข่ง ยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ 

คืนวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2567

• 02.00 น. คู่ผู้ชนะจากรอบรองชนะเลิศ

ติดตามข่าวสารฟุตบอลยูโร 2024 โปรแกรมการแข่งขันได้ที่นี่ Ball7M.com